บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยแผนความคืบหน้าการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ขยายครอบคลุมภูมิภาคนี้ยิ่งขึ้น
ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2564 เวียดนามมีจำนวนประชากร 97.75 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงเป็นลำดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ในอันดับ 15 ของโลก ตลาดของเวียดนามมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตราว 68.72 ล้าน โดยในปี 2563 มีจำนวนผู้เล่นเกม 48.9 ล้านคน รวมทั้งมียอดดาวน์โหลดเกมโมบายล์สูงติดอันดับ 10 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นจำนวน 1.5 พันล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10 และยังสามารถทำรายได้สูงเป็นอันดับที่ 32 ของโลก คิดเป็นจำนวน 151 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 จากปีก่อน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์รายได้ตลาดเกมในปี 2564 อยู่ที่ 257 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตทางรายได้ต่อปี (CAGR 2564 – 2568) ร้อยละ 11.57 ส่งผลให้มีรายได้ประมาณการที่ 399 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568
คุณปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ เล็งเห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง จึงให้ความสนใจและวางแผนรุกตลาดเกมในเวียดนามอย่างจริงจัง โดยจะลงทุนกับบริษัทในเวียดนาม คือ บริษัท CONG TY TNHH CHAU A MEM ซึ่งมีการเติบโตด้านรายได้ในปี 2561 – 2563 อยู่ที่ร้อยละ 188.2 (CAGR) และคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 92.8 จากปี 2563 ปัจจุบันเปิดให้บริการเกมทั้งหมด 4 เกม (พีซี 3, โมบายล์ 1) และหลังจากการลงทุน จะมีแผนเปิดให้บริการเกมใหม่ในครึ่งปีหลังนี้อีก 5 เกม เป็นพีซี 2 เกม (Gujian, Nine Dragons) และโมบายล์ 3 เกม (Cabal Mobile, TERA Classic, Real Yulgang Mobile)
และจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติลงทุนในบริษัท CONG TY TNHH CHAU A MEM มูลค่า 2.7 หมื่นล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 37.8 ล้านบาท โดยเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ในสัดส่วน ร้อยละ 49 ให้กับทางบริษัทฯ ทำให้บริษัทดังกล่าวจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของเอเชียซอฟท์ฯ รวมทั้งคาดว่าจะดำเนินการสำเร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีหลัง โดยเชื่อว่า การลงทุนและรุกตลาดเวียดนามในครั้งนี้ บริษัทฯ จะสามารถขยายฐานและทำให้ตลาดต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น”
ที่มาข้อมูล: App Annie, Statista, Hootsuite, Datareportal, Newzoo