ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคคลทั่วไป


ประกาศฉบับนี้กำหนดหลักปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศฉบับนี้บังคับใช้กับบุคคลทั่วไป ของบริษัท แอสเฟียร์
อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) บุคคลทั่วไปได้โปรดอ่านเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้โดยละเอียด

1. คำนิยาม  

“ข้อมูลส่วนบุคคล” ภายใต้ประกาศฉบับนี้ หมายถึงข้อมูลใดๆที่เกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมรวมทั้งข้อมูลทุกประเภทที่สามารถบ่งชี้ตัวตนซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงชื่อหมายเลขประจำตัวบัตรประชาชนข้อมูลสถานที่อยู่ข้อมูลออนไลน์ข้อมูลเอกลักษณ์ทางกายภาพทางจิตใจทางสังคมเศรษฐกิจวัฒนธรรมหรือข้อมูลอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนได้

2. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม

2.1 ข้อมูลบุคค 
บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง 

  • ชื่อ-นามสกุล 
  • วัน เดือน ปีเกิด  
  • อายุ  
  • เลขประจำตัวผู้เล่น (ID)  
  • IP Address  
  • ข้อมูลสุขภาพ หรือความพิการ  
  • สัญชาติ  
  • ศาสนา  
  • เพศ  
  • ที่อยู่ ทะเบียนบ้าน รายละเอียดภูมิลำเนา  
  • บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง  
  • หมายเลขโทรศัพท์  
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือ  
  • อีเมล  
  • เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษีอากร  
  • ทะเบียนรถยนต์  
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษของท่าน ตามมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เช่น เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน โดยบริษัทจะเข้าถึง เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวังตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะแจ้งข้อมูลรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษดังกล่าวต่อท่านก่อนหรือขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลจากท่านภายใต้เงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกฎหมาย

ท่านรับทราบว่า ในกรณีที่มีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดในทางแพ่งหรือทางอาญาหรือกฎหมายอื่นใด

บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลการกระทำความผิดกฎหมายของท่านได้ โดยบริษัทจะเข้าถึง เก็บรวบรวม เปิดเผย หรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวังตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด

2.4 บริษัทเก็บรวบรวมประมวลผลใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้จากบุคคลภายนอก
ท่านรับทราบและยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

  • ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เล่น(ID) IP Address ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ รูปถ่าย อีเมล เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต หมายเลขโทรศัพท์ ที่บริษัทอาจได้รับจากสถาบันการเงิน ตัวแทน หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เป็นต้น  
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับสุขภาพของท่าน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพของท่านจากโรงพยาบาล สถานพยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์  
  • ข้อมูลตรวจคนเข้าเมือง บริษัทอาจได้รับข้อมูลของท่านจากหน่วยงานรัฐ หรือสถานกงสุล เช่น ข้อมูลประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง ข้อมูลตรวจคนเข้าเมือง หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของบุคคลทั่วไป และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ได้เสียของบริษัท บริษัทได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยภายในบริเวณบริษัท บริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่บริษัทจัดหาอาจเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผลข้อมูลจากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านและข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านใช้และเข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัท 

3. ข้อมูลที่บริษัทประมวลผล

บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทรวบรวมจากท่านโดยตรงหรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกตามที่ระบุไว้ในข้อ 2. ในการให้บริการ การปฏิบัติตามสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทใช้ขั้นตอนการตัดสินใจอัตโนมัติที่จะประมวลผลข้อมูลของท่านผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในบางกรณี เช่น บริษัทอาจประเมินข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท หรืออื่นๆ ท่านอาจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

4. วัตถุประสงค์และเหตุผลทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลของท่าน  

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อจัดส่ง นำเสนอ หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทตามที่ท่านสนใจผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทางโซเชียลมีเดีย ทางอีเมล์หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น  
  • เพื่อส่งเสริม พัฒนาและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างท่านกับบริษัท  
  • เพื่อพิจารณา ประมวลผล ทดสอบ หรือวิเคราะห์ ความสนใจของท่านเพื่อส่งเสริมพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการของบริษัทให้ตอบสนองกับความสนใจและความต้องการของท่านอย่างสูงสุด  
  • เพื่อฝึกอบรม ควบคุม หรือรับประกันพนักงานและคุณภาพที่อาจเกี่ยวข้องกับการประสานงานหรือการติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ กับท่าน  
  • เพื่อจัดการ แก้ปัญหา ซักถาม และวิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการให้บริการของบริษัท โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อความจำเป็นเท่านั้น  
  • เพื่อจัดการ ตอบคำถาม หรือตอบรับ การติดต่อสื่อสารการร้องเรียนการใช้บริการ หรือการแสดงความคิดเห็นจากท่าน  
  • เพื่อชี้แจง บอกกล่าว หรือแจ้งให้ทราบถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท  
  • เพื่อตรวจสอบ ปกป้อง หรือป้องกัน การกระทำใดอันไม่ถูกต้อง การละเมิดการประพฤติผิด หรือการฝ่าฝืน กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและเงื่อนไขอื่นใดของบริษัท  
  • เพื่อส่งเสริมหรือประชาสัมพันธ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นใดภายใต้เงื่อนไขของบริษัท  
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ ประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  
  • เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของบริษัท 

บริษัทอาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ รวมทั้ง (i) ข้อมูลที่เปิดเผยเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ดั้งเดิม ความเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนาหรือปรัชญา หรือความเป็นสมาชิกของสหภาพ (ii) ข้อมูลทางชีวภาพและยีน และ (iii) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ รสนิยมทางเพศ บริษัทประมวลผลข้อมูลไม่ว่า (i) เพราะบริษัทได้รับความยินยอมของท่านที่จะดำเนินการดังกล่าวหรือ (ii) เพราะบริษัทต้องเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้หรือเพื่อปกป้องประโยชน์ได้เสียของบริษัท

ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบริษัทเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเมื่อท่านได้ให้ความยินยอม ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมได้ ณ เวลาใดๆ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเพิกถอนความยินยอม บริษัทยังอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเพื่อปกป้องประโยชน์ได้เสียของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะอธิบายให้ท่านทราบในเวลาที่มีการเพิกถอนความยินยอมว่า ข้อมูลใดที่บริษัทยังคงมีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย

นอกจากนี้ บริษัทเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆเพิ่มเติมที่สอดคล้องหรือเป็นไปในทำนองเดียวกับวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นรวมทั้งวัตถุประสงค์ในการทำการวิจัยทางประวัติศาสตร์ สถิติ หรือวิทยาศาสตร์เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูล (archives) เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในกรณีที่เป็นไปได้บริษัทจะไม่ใช้ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

หรือบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจำกัดขอบเขตของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะใช้ในการทำการวิจัยหรือจัดเก็บข้อมูลสำรอง รวมทั้ง บริษัทอาจใช้ข้อมูลนามแฝง (pseudonymous) เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  

5. ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการทำให้มั่นใจถึงการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอบริษัทพยายามที่จะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่มีอยู่พนักงาน บุคลากรของบริษัท บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทรวมทั้งบุคคลภายนอกที่มีสัญญาให้บริการแก่บริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นและคู่สัญญาอื่นๆ ที่กระทำในนามบริษัทจะเป็นผู้ได้รับและเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทเหล่านั้นเท่าที่จำเป็นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการให้บริการแก่ท่านและเพื่อปกป้องส่วนได้เสียของบริษัทเท่านั้น และตกลงที่จะป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้ การเข้าถึงหรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของผู้ให้บริการที่บริษัทจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ทราบ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลการติดต่อของท่านในสมุดรายชื่อเจ้าหน้าที่ให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตาม ท่านมีสิทธิขอให้ลบข้อมูลของท่านออกจากบริษัท ภายใต้หลักเกณฑ์เงื่อนไข ระยะเวลาที่บริษัทกำหนด

บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แก่บริษัทอื่นใดหรือหน่วยงานใดๆ เช่นหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่กำกับดูแลการให้บริการหรือหน่วยงานกำกับดูแลบริษัท หรือหน่วยงานที่บริษัทเป็นหน่วยงานราชการที่ควบคุมในเรื่อง การตรวจคนเข้าเมือง ภาษีความมั่นคงของชาติและอาชญากรรมตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อดำเนินกิจการของบริษัทหรือการดำเนินการกิจกรรมร่วมกัน การเดินทาง การจัดงานร่วมกันการเชื่อมโยง/เกี่ยวข้องทางวิชาชีพ (profession affiliations) และการวิจัย

นอกจากนี้ท่านตกลงยินยอมให้บริษัทเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในเครือหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการกิจการของบริษัทหรือเพื่อการปฏิบัติตามนโยบายเพื่อปกป้องประโยชน์ได้เสียหรือสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือประกาศที่บริษัทจะกำหนดเป็นกรณีๆ ไป

6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ 

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ ท่านตกลงและยินยอมให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่อยู่ในประเทศอื่นหรือภายใต้เขตอำนาจกฎหมายของประเทศอื่นไม่ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศนั้น อาจถึงเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระดับเดียวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย 

7. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล  

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท   

8. สิทธิของท่าน

ในเวลาใดก็ตาม ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีรวมทั้งสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน   
  • สิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านอาจส่งให้บุคคลภายนอกหรือขอให้บริษัทส่งโดยตรง  
  • สิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและวัตถุประสงค์อื่นใด   
  • สิทธิที่จะขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อไม่มีความจำเป็น สำหรับวัตถุประสงค์ที่มีการจัดเก็บ รวมทั้งสิทธิที่จะจำกัดขอบเขตการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ไม่สามารถให้ลบได้   
  • สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ 
  • สิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด   
  • สิทธิที่จะร้องเรียนกับหน่วยงานที่ควบคุมในกรณีที่ท่านเชื่อว่ามีการละเมิดสิทธิท่าน  

ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านจะต้องอยู่ภายข้อกำหนด ประกาศระเบียบที่บริษัทกำหนดซึ่งจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด โดยในการใช้สิทธิข้างต้น ท่านจะต้องส่งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 9. ของประกาศฉบับนี้ และการพิจารณาคำร้องดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวคำวินิจฉัยของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคำร้องขอใช้สิทธิของท่านถือเป็นที่สุด   

ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัท ลบ ทำลาย จำกัดการเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระงับการใช้ชั่วคราวแปลงข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการทำธุรกรรมหรือให้บริการแก่ท่านได้

9. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กำหนดในข้อ 8. หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดด้านล่างนี้ 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่
เลขที่ 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 – รามคำแหง ห้องเลขที่ 3-8 ชั้น 18 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

เบอร์โทร 02-769-8888  

อีเมล  dpo@asphere.co  

10. การเพิกถอนความยินยอม

หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไปท่านสามารถเพิกถอนความยินยอมได้โดยการทำคำร้องแจ้งมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนด ประกาศ หรือระเบียบที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด  

11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่เห็นสมควร รวมถึงในกรณีที่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กฎ ประกาศ ระเบียบ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงๆ ใด บริษัทจะประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทที่ ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลทันทีเมื่อมีการประกาศลงในเว็บไซต์ และท่านรับทราบและยินยอมปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขทุกประการ ท่านควรตรวจสอบและอ่านรายละเอียดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประกาศในเว็บไซต์เป็นประจำ