เอเชียซอฟท์แจ้งผลมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563

DATE : เมษายน 24, 2020

บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้จัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี  2563 เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้องสเปซบาร์ ชั้น 28 เลขที่ 9 ห้องเลขที่ 9/283-5 อาคารยู. เอ็ม. ทาวเวอร์ ถนนรามคำแหง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร บริษัทจึงขอแจ้งมติที่ประชุมดังกล่าวมาดังนี้
.
วาระที่ 1       มีมติรับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 ประชุมเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562 ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้
เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

.
วาระที่
2       รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2562

.
วาระที่ 3       มีมติอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ประจำปี 2562 ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้
.
เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

.

วาระที่ 4       มีมติอนุมัติงดการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้
.
เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

วาระที่ 5       มีมติอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการที่ออกตามวาระ จำนวน 2 ท่าน กลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสืบต่อไปอีกวาระหนึ่ง ดังนี้

      1. นายปราโมทย์ สุดจิตพร ได้รับเลือกตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้
เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

2. นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ ได้รับเลือกตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

.
.
วาระที่ 6       มีมติอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

.
โดยมีรายละเอียดค่าตอบแทนรายตำแหน่ง ดังนี้
1. กรรมการบริษัท
ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน โดย

ประธานกรรมการ                    33,000 บาทต่อเดือน
กรรมการ                              22,000 บาทต่อเดือน

2. กรรมการตรวจสอบ ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าเบี้ยประชุมสำหรับการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบในแต่ละครั้ง โดย

ประธานกรรมการตรวจสอบ       44,000 บาทต่อครั้ง
กรรมการตรวจสอบ                 33,000 บาทต่อครั้ง

หากกรรมการท่านใดเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัท ก็ให้ค่าตอบแทนกรรมการดังกล่าวเป็นส่วนเพิ่มเติมจากค่าจ้างปกติที่กรรมการแต่ละท่านได้รับ
ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป

วาระที่ 7       มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง ผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าสอบบัญชี ประจำปี 2563 ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

นายสมภพ ผลประสาร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 6941 และ/หรือ นางสาววรรณวัฒน์ เหมชะญาติ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 7049 ในนามบริษัท MAZARS LIMITED เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท ประจำปี 2563 โดยให้ผู้สอบบัญชีคนใดคนหนึ่ง มีอำนาจตรวจสอบ สอบทาน จัดทำ และแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท และในกรณีที่ผู้สอบบัญชีตามรายนามข้างต้น ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้บริษัท MAZARS LIMITED เป็นผู้มีอำนาจจัดหาผู้สอบบัญชีรับอนุญาตอื่นของบริษัท MAZARS LIMITED ทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีและแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทแทนได้ โดยกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี 2563 เป็นเงินจำนวน 2,743,125 บาท (ค่าสอบบัญชีประจำปี 2562 เป็นเงิน 2,612,500 บาท)

ทั้งนี้ หากมีงานนอกเหนือจากการสอบบัญชีตามปกติ ขอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมอบอำนาจให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณากำหนดค่าใช้จ่ายพิเศษเป็นกรณี ๆ ไป

วาระที่ 8            มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 20,493,850 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 532,840,120 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 409,877,016 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 512,346,270 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 409,877,016 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่ายของบริษัท และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลดทุนจดทะเบียน หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 ของบริษัท จะเป็นดังนี้

“ข้อ 4.   ทุนจดทะเบียน จำนวน     512,346,270 บาท     (ห้าร้อยสิบสองล้านสามแสนสี่หมื่นหกพันสองร้อยเจ็ดสิบบาท)
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว   409,877,016 บาท     (สี่ร้อยเก้าล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันสิบหกบาท)
แบ่งออกเป็น                   512,346,270 หุ้น       (ห้าร้อยสิบสองล้านสามแสนสี่หมื่นหกพันสองร้อยเจ็ดสิบหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ                    1 บาท                     (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น:
หุ้นสามัญ                       512,346,270 บาท (ห้าร้อยสิบสองล้านสามแสนสี่หมื่นหกพันสองร้อยเจ็ดสิบบาท)
หุ้นบุริมสิทธิ                    – หุ้น                        (-)”

วาระที่ 9            มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 256,173,135 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 512,346,270 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 409,877,016 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 256,173,135 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 204,938,508 บาท โดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 1.00 บาท เป็น หุ้นละ 0.50 บาท และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลดทุนจดทะเบียน หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 ของบริษัท จะเป็นดังนี้

“ข้อ 4.   ทุนจดทะเบียน จำนวน     256,173,135 บาท     (สองร้อยห้าสิบหกล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าบาท)
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว   204,938,508 บาท     (สองร้อยสี่ล้านเก้าแสนสามหมื่นแปดพันห้าร้อยแปดบาท)
แบ่งออกเป็น                   512,346,270 หุ้น       (ห้าร้อยสิบสองล้านสามแสนสี่หมื่นหกพันสองร้อยเจ็ดสิบหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ                    0.50 บาท                 (ห้าสิบสตางค์)
โดยแยกออกเป็น:
หุ้นสามัญ                       256,173,135 บาท     (สองร้อยห้าสิบหกล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าบาท)
หุ้นบุริมสิทธิ                    – หุ้น                        (-)”

วาระที่ 10          มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จากทุนจดทะเบียนเดิม 256,173,135 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 204,938,508 บาท ให้เป็นทุนจดทะเบียน 266,420,060 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 204,938,508 บาท โดยการออกและจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซึ่งจัดสรรให้แก่ คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 20,493,850 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และอนุมัติการจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิจำนวน 20,493,850 หุ้น ให้แก่คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,405,003 เสียง คิดเป็นร้อยละ 100
ไม่เห็นด้วย 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเพิ่มทุนจดทะเบียน หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 ของบริษัท จะเป็นดังนี้

“ข้อ 4.   ทุนจดทะเบียน จำนวน     266,420,060 บาท     (สองร้อยหกสิบหกล้านสี่แสนสองหมื่นหกสิบบาท)
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว   204,938,508 บาท     (สองร้อยสี่ล้านเก้าแสนสามหมื่นแปดพันห้าร้อยแปดบาท)
แบ่งออกเป็น                   532,840,120 หุ้น       (ห้าร้อยสามสิบสองล้านแปดแสนสี่หมื่นหนึ่งร้อยยี่สิบหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ                    0.50 บาท                 (ห้าสิบสตางค์)
โดยแยกออกเป็น:
หุ้นสามัญ                       266,420,060 บาท     (สองร้อยหกสิบหกล้านสี่แสนสองหมื่นหกสิบบาท)
หุ้นบุริมสิทธิ                    – หุ้น                        (-)”

วาระที่ 11          มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 20,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 266,420,060 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 204,938,508 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 286,420,060 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 204,938,508 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นการเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์การใช้เงินทุนมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) และจัดสรรแก่บุคคลในวงจำกัด และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน และมีผู้คัดค้านไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

เห็นด้วย 290,404,903 เสียง คิดเป็นร้อยละ 99.99997
ไม่เห็นด้วย 100 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0.00003
งดออกเสียง 0 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0
บัตรเสีย 0 เสียง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเพิ่มทุนจดทะเบียน หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 ของบริษัท จะเป็นดังนี้

“ข้อ 4.   ทุนจดทะเบียน จำนวน     286,420,060 บาท     (สองร้อยแปดสิบหกล้านสี่แสนสองหมื่นหกสิบบาท)
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว   204,938,508 บาท     (สองร้อยสี่ล้านเก้าแสนสามหมื่นแปดพันห้าร้อยแปดบาท)
แบ่งออกเป็น                   572,840,120 หุ้น       (ห้าร้อยเจ็ดสิบสองล้านแปดแสนสี่หมื่นหนึ่งร้อยยี่สิบหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ                    0.50 บาท                 (ห้าสิบสตางค์)
โดยแยกออกเป็น:
หุ้นสามัญ                       286,420,060 บาท     (สองร้อยแปดสิบหกล้านสี่แสนสองหมื่นหกสิบบาท)
หุ้นบุริมสิทธิ                    – หุ้น                        (-)”

วาระที่ 12          ไม่มี

ดาวน์โหลดไฟล์ รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น
ภาษาไทย คลิกที่นี่
ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่

TAGS