เอเชียซอฟท์ ถวายเงินทั้งหมดจาก “เกมเมอร์เลิฟแด้ด” เข้าโครงการในพระราชดำริเตรียมจัดต่อเนื่องฉลองปีมหามงคล ในหลวงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา (1 มี.ค. 2550)

เอเชียซอฟท์ฯปลื้มเกมเมอร์ร่วมพลังร่วมแรงร่วมใจซื้อไอเท็มสีเหลืองในเกมออนไลน์จนเกมเมอร์เลิฟแด้ดปี 1 ซึ่งจัดแค่เดือนเดียวแต่ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์กว่าสามล้านบาท  เผยได้นำรายได้ทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง และสมทบทุนเข้าโครงการในพระราชดำริโดยไม่หักค่าใช้จ่าย  พร้อมเตรียมแผนจัด “เกมเมอร์เลิฟแด้ด ปี 2” ให้ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องกว่าปีผ่านมา ฉลองปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่นฯ  เผยถึงความสำเร็จของการจัดโครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ด ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทฯ จัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมีเป้าหมายให้ผู้เล่นเกมออนไลน์ได้มีโอกาสแสดงความรักพ่อและแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงของเรา ซึ่งบรรดาเกมเมอร์ก็ได้พร้อมใจกันซื้อไอเท็มสีเหลืองมาสวมใสให้กับตัวละครในเกมออนไลน์ของบริษัท คือ Maple Story (เมเปิ้ล สตอรี่), Ragnarok  (แร็คนาร็อค ออนไลน์),  Yulgang (โยวกัง ยุทธภพครบสลึง), Audition (ออดิชั่น) และ TS Online, BNB (ระเบิดน้ำมหาสนุก)  ซึ่งโครงการดังกล่าวได้จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2549  และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

“แม้โครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ด จะจัดขึ้นเพียงระยะเวลาที่สั้นมาก แค่ 1 เดือน 4 วัน แต่เป็นโครงการที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยมียอดเงินจากการจำหน่ายไอเท็มสีเหลืองในเกมทั้ง 6 เกมของบริษัทฯ  สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3,247,839 บาท (สามล้านสองแสนสี่หมื่นเจ็ดพันแปดร้อยสามสิบเก้าบาทถ้วน) ซึ่งเป็นเพราะความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของผู้เล่นเกมออนไลน์ทุกคน ที่แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงของเราผ่านการซื้อไอเท็มสีเหลืองทั้งเสื้อเหลือง หมวกเหลืองมาสวมใส่ให้กับตัวละครภายในเกมจำนวนกว่าสองหมื่นชิ้น จนทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง” เลิศชาย กันภัย ผู้จัดการทั่วไปกล่าว

“บริษัทฯ ได้นำรายได้ทั้งหมดทูลเกล้าฯ ถวาย และสมทบทุนผ่านโครงการในพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้คือ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์, โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนและโครงการพระดาบสตามกระแสพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมทบทุนมูลนิธิละหนึ่งล้านบาท และทูลเกล้าฯถวาย ผ่านสำนักราชเลขาธิการ”

“อย่างไรก็ดี เอเชียซอฟท์ฯ เห็นว่าจากความสำเร็จของโครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ดที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ กอปรกับปีนี้รัฐบาลประกาศให้เป็นปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550  บริษัทฯ   จึงเตรียมแผนจัดโครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ดต่อเนื่องอีกครั้ง เป็นปีที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเกมออนไลน์ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงของเราอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือร่วมใจจากเกมเมอร์เป็นอย่างดีเช่นที่ผ่านมา”  นายเลิศชาย กันภัย ผู้จัดการทั่วไปกล่าวปิดท้าย

ประมวลภาพการมอบเงินรายได้ทั้งหมด 3,247,839 บาท

สมทบทุนโครงการในพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท โดยมี ฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี และประธานโครงการฯ รับมอบเงิน  ณ ทำเนียบองคมนตรี

นายเลิศชาย กันภัย ผู้จัดการทั่วไป  มอบรายได้สมทบทุนโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ จำนวน 1,000,000 ล้านบาท

เกมเมอร์เลิฟแด้ด โดย เอเชียซอฟท์ มอบเงิน 1,000,000 บาท สมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์

นายเลิศชาย กันภัย ผู้จัดการทั่วไป  มอบรายได้จากโครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ด : เสื้อเหลืองเพื่อพ่อ  จำนวน 1 ล้านบาท สมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี นายขวัญแก้ว วัชโรทัย ราชเลขาธิการ และประธานมูลนิธิฯ  รับมอบเงิน  ณ มูลนิธิราชประนุเคราะห์ ถนนกรุงเกษม เมื่อเร็วๆ นี้

เกมเมอร์เลิฟแด้ด โดย เอเชียซอฟท์ มอบเงินสมทบทุนมูลนิธิพระดาบส จำนวน 1,000,000 บาท

นายเลิศชาย กันภัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มอบเงินสมทบทุนมูลนิธิพระดาบส  เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท โดยมี ฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรีและประธานมูลนิธิพระดาบส รับมอบเงิน  ณ ทำเนียบองคมนตรี  เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โครงการเกมเมอร์เลิฟแด้ด  ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน และสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยมีระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเพียง 1 เดือนกว่า  และมีรายได้จากการจัดจำหน่ายไอเท็มสีเหลืองในเกมสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3,247,839 บาท ซึ่งบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้นำรายได้ถวายทั้งหมดทูลเกล้าฯ ถวายโครงการในพระราชดำริ 3 โครงการๆ ละ 1 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 3,000,000 บาท และทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย จำนวน 247,839 บาท